แทงบอลสด เป็นรูปแบบการพนันฟุตบอลที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถเข้าไปเล่นระหว่างการแข่งขันได้ ทำให้ผู้เล่นได้เห็นฟอร์มการเล่นของแต่ละทีม ความได้เปรียบเสียเปรียบก่อนตัดสินใจเดิมพัน ก่อนอื่นเลยการแทงบอลนั้นควรเริ่มจากเว็บที่น่าเชื่อถือ เริ่มต้นง่ายๆที่
Nanabet.com ฝากถอนโอนไวด้วยระบบ Auto การันตรีถอน 100% ถูกจริงจ่ายเต็ม ผ่านเว็บตรงอย่าง BTI Sport เว็บกีฬาดาวเด่นระดับโลก มีรายละเอียดบอลแต่ละคู่แบบชัดเจน ราคาบอลสดเที่ยงตรง สมัครฟรี ลองเลย ทางเข้าแทงบอลที่ปลอดภัยที่สุด
BTI Sport ใช้งานอย่างไร วันนี้เราจะมาเจาะลึก วิธีการเล่น วิธีการนับคะแนน สำหรับการแทงบอลออนไลน์ แนะนำโดยเซียนบอลมืออาชีพ ที่จะมาเปิดประสบการณ์ใหม่ๆให้คุณได้ลุ้นไปตามๆกัน นอกจากนี้ยังมี im esports เหมาะสำหรับทั้งสายแทงบอล และทายผล esports ไม่ว่าจะเป็น dota2 lol rov apex หรือว่า valorant
อัตราต่อรองแบบเอเชีย (Asian Handicap) เป็นอัตราต่อรองแบบพิเศษใช้ในการแข่งฟุตบอล ซึ่งทำให้การเดิมพันแบบนี้มีความน่าตื่นเต้นมากขึ้นเพราะอัตรานี้จะขึ้นอยู่กับความเป็นต่อของแต่ละทีม และทำให้ค่าน้ำของทั้งทีมต่อและทีมรองไม่แตกต่างกันจนเกินไป
รวมไปถึงการเดิมพันทั้งครึ่งแรกและครึ่งหลัง หากมีการทำประตูก่อนการเดิมพันจะไม่ถูกนำมาคิด ซึ่งผลการแข่งขันจะนับคะแนนเมื่อการแข่งขันสิ้นสุด ไม่รวมช่วงต่อเวลา กรณีการแข่งขันถูกยกเลิก การวางเดิมพันจะเป็นโมฆะ
ราคาบอลหลักๆจะนับผลจากคะแนนที่ยิงได้เป็นหลัก หักลบด้วยแต้มต่อ ซึ่งการดูแต้มต่อของแต่ละทีมนั้น สังเกตุจากสี หากเป็นทีมต่อ ชื่อทีมในคู่นั้นจะเป็นสีแดง และหากเป็นทีมรอง จะมีสีดำ ยกตัวอย่างอัตราแพ้ชนะเช่น
0.00 (0) ต่อเสมอ
0.25 (0-0.5 หรือ ปป.) ต่อเสมอควบครึ่ง
0.50 (0.5) ต่อครึ่งลูก
0.75 (0.5-1) ต่อครึ่งควบลูก
1.00 (1) ต่อหนึ่งลูก
1.25 (1-1.5) ต่อลูกควบลูกครึ่ง
1.50 (1.5) ต่อลูกครึ่ง
1.75 (1.5-2) ต่อลูกครึ่งควบสองลูก
เคยสงสัยกันใช่ไหม มีการให้ผลตอบแทนที่แตกต่างกันอย่างไร วันนี้จะมายกตัวอย่างค่าน้ำทั้ง 4 แบบและวิธีการคิดผลรางวัล โดยหลักแล้วค่าน้ำที่เห็นกันอยู่นั้นแบ่งเป็น 4 ประเภทได้แก่
1.ค่าน้ำมาเลเซีย (Malaysia Odds) : เป็นรูปแบบที่คนไทยนิยมมากที่สุด เนื่องจากสามารถควบคุมทุนการเดิมพันได้ แถมเวลาเสียจะเสียน้อยกว่าจำนวนเงินที่เดิมพันไป แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
Ex. เดิมพัน 1,000 บาท ค่าน้ำดำ 0.78 หากชนะจะได้ 1,000×0.78 = 780 บาท ไม่รวมทุน
Ex.เดิมพัน 1,000 บาท ค่าน้ำแดง -0.82 หากชนะ จะได้ 1,000 บาท แต่หากแพ้จะเสียเดิมพันเพียง 1,000x(-0.82) = -820 บาท
2.ค่าน้ำฮ่องกง (Hongkong Odds) : เป็นรูปแบบที่มีจุดเด่นที่มีโอกาสได้รางวัลมากกว่า หรืออาจจะน้อยกว่ายอดเดิมพันขึ้นอยู่กับทีมต่อและทีมรอง แต่จะจำกัดยอดเสียเท่าจำนวนเงินที่เดิมพันเท่านั้น
Ex. เดิมพัน 1,000 บาท ค่าน้ำ 1.26 หากชนะจะได้ 1,000×1.26 = 1,260 บาท ไม่รวมทุน แต่หากแพ้ จะเสียเพียง -1,000 บาทเท่านั้น
Ex. เดิมพัน 1,000 บาท ค่าน้ำ 0.89 หากชนะจะได้ 1,000×0.89 = 890 บาท ไม่รวมทุน แต่หากแพ้ จะเสีย -1,000 บาทตามยอดที่เดิมพัน
3.ค่าน้ำยูโร (Euro Odds) : หรือมีชื่อเรียกได้อีกหลายชื่อเช่น ค่าน้ำยุโรป ค่าน้ำอเมริกา หรือค่าน้ำแบบเดซิมอล จะเป็นรูปแบบที่จะคำนวนคล้ายค่าน้ำฮ่องกง แต่จะต่างตรงที่ค่าน้ำนั้น จะรวมทุนอยู่ในนั้นด้วย แต่หากเสียจะเสียเท่าจำนวนที่เดิมพัน
4.ค่าน้ำอินโดนิเซีย (Indonesia Odds) : อาจเรียกได้ว่าเหมือนกับค่าน้ำมาเลเซียได้เลย มีข้อแต่ต่างอยู่ตรงค่าน้ำนั้น มีอัตราได้เสียที่สูงกว่าจำนวนเดิมพัน แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
Ex. เดิมพัน 1,000 บาท ค่าน้ำดำ 1.22 หากชนะจะได้ 1,000×1.22 = 1,220 บาท ไม่รวมทุน หากแพ้เสียเท่าจำนวนที่เดิมพัน
Ex. เดิมพัน 1,000 บาท ค่าน้ำแดง -1.44 หากชนะจะได้ 1,000 บาท แต่ถ้าหากแพ้ จะเสียเท่ากับ 1,000x(-1.44) = -1,440 ซึ่งมากกว่ายอดเดิมพัน
สุดท้ายนี้ค่าน้ำทั้ง 4 รูปแบบจะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ใครถูกใจค่าน้ำแบบใดสามารถเลือกเล่นได้ตามความชอบได้เลยเพราะเรามีตัวเลือกให้คุณแบบครบครัน เดิมพันได้แล้ววันนี้ที่ NanaBet.com